วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2553

7 ดาว ความมหัศจรรย์ยามค่ำคืน กลายเป็นสวรรค์ของนักเดินทาง

7 ดาว ความมหัศจรรย์ยามค่ำคืน.. ที่ทำให้เมืองไทยกลายเป็นสวรรค์ของนักเดินทาง



จองพารา เทศกาลแห่งสีสันวันแห่ปราสาทไม้เกี๊ยะ จ.แม่ฮ่องสอน
วันออกพรรษา งานประเพณียิ่งใหญ่ของชาวไต วันที่ปราสาทไม้เกี๊ยะจะถูกจุดเทียน ประดับไฟนับหมื่น นับแสนดวงงดงามราวกับเมืองสวรรค์
ประเพณีนี้ถือกำเนิดมาจากความเชื่อของชาวพุทธเชื้อสายชาวไตว่า ในวันนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จกลับลงมาสู่โลกมนุษย์จากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากเสด็จไปเทศนาโปรดพระมารดา ผู้คนจึงมีศรัทธาพากันสักการะบูชาด้วยการสร้างปราสาทไม้เกี๊ยะหรือไม้สนประดับประดาสวยงามและตามไฟในยามค่ำคืนกันทุกบ้านเรือน วัดวาอารามต่างๆ ก็จะจุดผางจุดเทียนสว่างไสว นับเป็นเทศกาลแห่งสีสันวันออกพรรษาที่หาดูได้ที่นี่แห่งเดียวในเมืองไทย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลาราว 18.45 น. หรือใกล้ค่ำ
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: คืนวันออกพรรษา หรือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: หนองจองคำ หน้าวัดจองคำ และวัดจองกลาง
เส้นทางการเดินทาง จาก จ.เชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 ถึง อ.แม่แตง ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 1095 ผ่าน อ.ปาย อ.ปางมะผ้า สู่ จ.แม่ฮ่องสอน ในเมืองใช้ถนนสิงหนาทบำรุง และถนนประดิษฐ์จองคำสู่หนองจองคำ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร. 053 612 982-3




คืนมหัศจรรย์นอนนับดาวที่มอหินขาว เสาหินมหัศจรรย์ จ.ชัยภูมิ
เสาหินยิ่งใหญ่ต้องยกให้ “มอหินขาว” จังหวัดชัยภูมิ ใครได้นอนนับดาวที่นี่ จะรู้ว่าพลังมหัศจรรย์บนฟากฟ้า
ของดาวล้านดวงมีจริง
กลุ่มเสาหินสูงใหญ่เรียงรายที่อยู่บนสันเขาภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ ก่อกำเนิดทางธรณีวิทยามาจากแรงยกตัวของเปลือกโลกผ่านวันเวลามานานนับสิบๆ ล้านปี ด้วยอิทธิพลของลมฝนอีกทั้งแสงแดด จนผุกร่อนมีรูปทรงแปลกตา ณ ยามราตรี เมื่อเหล่าดวงดาวนับล้านดวงโคจรอยู่เหนือกลุ่มหินมหัศจรรย์เหล่านี้ เกล็ดเพชรของทางช้างเผือกเหนือฟากฟ้าก็จะระยิบระยับราวกับอยู่ใกล้แค่เอื้อม
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลา 23.00 น. ถึงราวตี 2
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: ฤดูร้อนราวเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: กลุ่มหินมอหินขาวด้านทิศตะวันออก และตะวันตก
เส้นทางการเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 2 ถึง อ.สีคิ้ว ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 201 ถึง จ.ชัยภูมิ แล้วใช้เส้นทางสู่น้ำตกตาดโตน ก่อนถึงเล็กน้อยมีทางแยกซ้ายเส้นทางสู่มอหินขาว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท.สำนักงานนครราชสีมา โทร. 044 213 030, 044 213 666




ไหลเรือไฟ เทศกาลจุดไฟลอยน้ำโขง จ.นครพนม
หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียวที่มหานทีแม่โขงเขาจุดเรือไฟปล่อยลอยไปกับสายน้ำ ตระการตาด้วยแสงไฟ ลุกโชติช่วงยามราตรี ทั้งโลกหาดูได้ที่นี่ที่เดียว
แม่น้ำโขง มหานทีแห่งชีวิตซึ่งเดินทางมายาวไกล ช่วงปลายฝนต้นหนาว สิ้นฤดูเก็บเกี่ยว ผู้คนเมืองนครพนมมีวิถีประเพณีปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านานในเทศกาลออกพรรษา ด้วยการทำ “เรือไฟ” ประดับประดาสวยงามตระการตาด้วยสีสันและพลุไฟ ก่อนจะจุดไฟให้โชติช่วงเรืองรอง ปล่อยไหลล่องเป็นขบวนเรือไฟไกลสุดแรงศรัทธา เพื่อสักการะบูชาพระพุทธเจ้า ในวันเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ลงมาโปรดมนุษย์โลก
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงหัวค่ำของคืนวันออกพรรษา
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: คืนวันออกพรรษา หรือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ริมแม่น้ำโขง หน้าเมืองนครพนม
เส้นทางการเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 2 ถึง จ.ขอนแก่น ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 209 และ 213 ถึง จ.สกลนคร ต่อด้วย ทางหลวงหมายเลข 22 สู่ จ.นครพนม และทางหลวงหมายเลข 212 เลียบริมแม่น้ำโขง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท.สำนักงานนครพนม โทร. 042 513 490-1





อลังการดาวอยู่บนดิน เทศกาลแห่ดาว จ.สกลนคร
ค่ำคืนวันฉลองเทศกาลคริสต์มาส คนเมืองสกลนครเขาจินตนาการ ดาวบนท้องฟ้าเอามาแห่อยู่บนดิน เป็นเทศกาลรื่นเริงสนุกสนานกว่าที่ไหนในเมืองไทย
ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร คือบ้านของชุมชนชาวคริสต์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วันคริสต์มาสของที่นี่ ชาวคริสต์จะประดิษฐ์ดวงดาวกระดาษขนาดน้อยใหญ่ประดับประดาด้วยดวงไฟหลากสีสัน นำไปตกแต่งขบวนรถ ประดับประดายามราตรีอย่างสวยงาม และแห่เฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ สนุกสนาน เรียกว่า “เทศกาลแห่ดาว” นับได้ว่าเป็นขบวนแห่เหนือจินตนาการ ซึ่งเล่าขานกันว่า งามที่สุดในเมืองไทย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงหัวค่ำของคืนวันคริสต์มาส
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: วันคริสต์มาสของทุกปี
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร
เส้นทางการเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 2 ถึง จ.ขอนแก่น ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 209 และ 213 ถึงตัว จ.สกลนคร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท.สำนักงานนครพนม โทร. 042 513 490-1




ที่สุดความโรแมนติกพระจันทร์วันเพ็ญ ขึ้นที่อ่าวประจวบฯ จ.ประจวบคีรีขันธ์
พระจันทร์วันเพ็ญขึ้นที่อ่าวประจวบฯ ความโรแมนติกที่ซ่อนไว้ในหนึ่งเดือน มีเวลาเพียง 2 วันเท่านั้น คือในวันขึ้น 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ
อ่าวประจวบฯ ทอดยาวเป็นวงโค้ง งดงามด้วยทัศนียภาพ อันมีเรื่องราวตามตำนานพื้นบ้าน “ตาม่องลาย” ซึ่งกล่าวถึงการกำเนิดของภูเขาและเกาะน้อยใหญ่ที่เรียงรายอยู่ในอ่าวประจวบฯ ไม่ว่ามุมไหนๆ ใครมองออกไปกลางอ่าว ก็จะพบว่าจินตนาการของคนโบราณนั้นสุดลึกล้ำ แต่เรื่องราวเหนือจินตนาการของพระจันทร์เพ็ญกลางอ่าวแห่งนี้ คือสุดยอดความโรแมนติกของเมืองไทย ที่คุณจะไม่มีวันลืม
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำ คืนวันขึ้น 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: ฤดูร้อนราวเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: อ่าวประจวบฯ บริเวณค่อนมาทางกองบินน้อยที่ 5
เส้นทางการเดินทาง จากกรุงเทพฯ เดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ต่อด้วยหมายเลข 4 ถึง
จ.ประจวบฯ แยกซ้ายทางหลวงหมายเลข 326 ไปถึงถนนเลียบชายทะเล เลี้ยวขวาไปทางกองบินน้อย
ที่ 5 มุมมองจะดีที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทร. 032 513 885, 032 513 854



ตระการตา พิพิธภัณฑ์มังกรทองล้ำค่า หนึ่งเดียวในเมืองไทย จ.สุพรรณบุรี
ที่เดียวในเมืองไทย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ถูกออกแบบ สร้างรูปร่างให้เป็นมังกร ยามใกล้ค่ำมังกรตัวนี้จะกลายร่างเป็นมังกรทองล้ำค่า
ถ้าไม่ไป ไม่เห็น ไม่รู้ คงไม่เชื่อ สุพรรณบุรี เมืองที่น่าศึกษาทั้งเรื่องราวครั้งประวัติศาสตร์ ความเจริญรุ่งเรือง ตลอดจนความอุดมสมบูรณ์ พืชพันธุ์ ธัญญาหารไม่เป็นรองที่ไหนในเมืองไทย ผู้คนยิ่งใหญ่ ความคิดกว้างไกล สร้างพิพิธภัณฑ์เป็นรูปมังกรตัวยักษ์ทะยานฟ้า พาเรื่องราวของเผ่าพันธุ์คนจีนมาให้ผู้คนรู้จัก ภูมิใจในที่มาของตน จะกี่วันกี่เดือนกี่ปีมังกรตัวนี้ก็ยังผงาดได้ไม่มีเสื่อมสูญ แต่หากถามถึงความงาม ให้ไปดูตอนใกล้ค่ำเพราะมังกรตัวนี้แปลงร่างทุกวัน เป็นมังกรทองล้ำค่าไม่น่าเชื่อ
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลาราว 18.45 น. หรือช่วงโพล้เพล้ใกล้ค่ำ
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: ราวเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: บนเนินสูงด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของตัวมังกร
เส้นทางการเดินทาง จาก จ.นนทบุรี ใช้ถนนรัตนาธิเบศร์เดินทางถึงบางใหญ่ ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 340 ถึงตัว จ.สุพรรณบุรี เลี้ยวซ้ายทางหลวงหมายเลข 321 ข้ามแม่น้ำสุพรรณบุรีแล้วแยกขวาสู่ศาลหลักเมือง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท.สำนักงานสุพรรณบุรี โทร. 035 536 030, 035 535 789


อลังการมรดกโลก เมืองเก่าอยุธยายามราตรี จ.พระนครศรีอยุธยา
อยุธยาเมืองมรดกโลก ยามเมื่อแสงแห่งวันสิ้นไป โบราณสถานซึ่งประดับด้วยแสงไฟ คือความงามล้ำลึกเรืองรอง
อยุธยา ราชธานีในประวัติศาสตร์ชาติไทยยาวนานถึง 417 ปี มรดกโลกแห่งนี้อลังการด้วยโบราณสถานอันทรงคุณค่างดงามผสมผสานด้วยวิถีชีวิตผู้คนกับความเป็นเมืองประวัติศาสตร์อย่างลงตัว ทุกวันเมื่อแสงสุดท้ายแห่งเวลาสิ้นลง แสงไฟประดับประดา ตามโบราณสถานต่างๆ จะค่อยๆ เจิดจรัส ราวกับเนรมิตให้ราชธานีศรีอยุธยาเรืองรองขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนอดีตอันรุ่งโรจน์
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลาราว 18.45 น. หรือโพล้เพล้ใกล้ค่ำ
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: ราวเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: วัดพระศรีสรรเพชญ์
เส้นทางการเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 และ 32 ถึง จ.พระนครศรีอยุธยา แยกซ้ายทางหลวงหมายเลข 309 ข้ามแม่น้ำป่าสักสู่ตัวเมืองเก่าเขตโบราณสถาน สำหรับวัดไชยวัฒนาราม อยู่นอกเกาะเมืองด้านตะวันตก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทร. 035 246 076-7

ไม่มีความคิดเห็น: